วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554
ตอร์เรสปลื้มสุดขีดซัดประตูแรกให้สิงห์
ในที่สุด เฟร์นานโด ตอร์เรส ศูนย์หน้าค่าตัวแพง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ก็ทำประตูแรกให้ต้นสังกัดใหม่ได้ ในเกมยำใหญ่ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปได้อย่างสวยงาม 3-0 เจ้าตัวมั่นใจจะยิงได้อีกเรื่อยๆ แน่นอน
เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปนของ เชลซี สโมสรชั้นนำแห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดี ออกอาการดีใจแบบสุดขีด ที่ทำประตูแรกในชุด "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้สำเร็จ ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่เอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปได้อย่างขาดลอย 3-0 ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่คลำเป้าไม่เจอเลยในการลงสนามไปแล้ว 13 นัด หรือ 901 นาที ทั้งในระดับทีมชาติและสโมสร
ตอร์เรส ซึ่งถูกส่งลงสนามแทน ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ในนาทีที่ 76 ก่อนที่จะยิงประตู 2-0 ในนาทีที่ 84 ของเกมดังกล่าว กล่าวว่า "มันไม่ใช่จุดเริ่มต้นอย่างที่ผมคาดหวังเอาไว้ เมื่อตอนที่ผมเซ็นสัญญา แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะย้ายทีมในเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ ผมยังคงทำงานหนัก และต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคนที่ช่วยให้ผมยิงได้ซะที แรงกดดันสำหรับผมลดลงไปแล้ว และตอนนี้ผมก็แฮปปี้ดีพร้อมไปเลยจริงๆ สภาพสนามวันนี้ไม่ได้เอื้ออำนวยต่อการทำประตูเท่าไหร่ แต่ฟุตบอลมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ"
"เหล่าบรรดาแฟนบอลอดทนกับผมมากๆ ผมกระวนกระวายใจกับพวกเขามากกว่าตัวผมเองด้วยซ้ำไป ผมหวังว่า นี่จะเป็นประตูแรกของอีกจำนวนมากมายที่จะหลั่งไหลตามมาอีกในอนาคต" อดีตดาวยิง "หงส์แดง" ที่ประเดิมประตูแรกได้สำเร็จ หลังลงเตะให้ "สิงห์บลูส์" 732 นาที นับตั้งแต่ย้ายสังกัดมาจาก ลิเวอร์พูล เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา กล่าวในที่สุด
ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีม เชลซี เชื่อว่า ประตูนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับดาวยิงเลือดกระทิงรายนี้ในอนาคตอย่าง แน่นอน โดยชี้ว่า "มันสมบูรณ์แบบจริงๆ ทุกคนเฝ้ารอ เฟร์นานโด (ตอร์เรส) ทำประตู แล้วเขาก็ทำได้แล้ว"
"สำหรับเขาแล้ว วันนี้ถือเป็นชีวิตใหม่ของเขา ผมคิดว่านับจากวันนี้ไป เขาจะมีอนาคตที่มหัศจรรย์กับสโมสร ปัญหาใหญ่ก็คือ เขาย้ายมาสู่ทีมใหม่ของเขา และมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยในการสร้างความสัมพันธ์และเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ แต่ในขณะนี้ทุกอย่างได้คลี่คลายลงไปแล้ว" กุนซือชาวอิตาเลียน กล่าวทิ้งท้าย
แหล่งที่มา
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=420977
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น