เฟร์นานโด ตอร์เรสยุติชีวิต ณ ห้องครัวในฐานะสากกะเบืออย่างเป็นทางการแล้วหลังลงมาท้ายเกมยิงประตูย้ำชัย ให้เชลซีเอาชนะเวสต์แฮม 3-0 ลบฝันร้ายไร้สกอร์ไว้ที่ 14 นัด 730 นาทีพร้อมขยับไล่แมนฯยูไนเต็ดเหลือ 6 แต้มเท่าเดิม
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2554
เชลซี 3 : 0 เวสต์แฮม
ประตู : 1-0 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.44,2-0 เฟร์นานโด ตอร์เรส น.84,3-0 ฟลอร็องต์ มาลูด้า น.90+3
เกมนี้เป็นการพบกันระหว่างสองทีมที่มีเป้าหมายแตกต่างกันอย่างชัดเจน เชลซีนั้นต้องการสามแต้มเพื่อไล่จี้ตามแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจ่าฝูงให้เหลือ 6 คะแนนเท่าเดิม ส่วนเวสต์แฮมต้องการแต้มตุนเอาไว้เพื่อหนีตกชั้นในฤดูกาลนี้ให้จงได้
คาร์โล อันเชล็อตติเลือกใช้ดิดิเย่ร์ ดร็อกบาในแดนหน้าโดยมีซาโลมอง กาลูและฟลอร็องต์ มาลูด้าขนาบข้าง ผิดกับข่าวที่ออกมาตอนแรกว่าอาจจะส่งเฟร์นานโด ตอร์เรสลงเป็นตัวจริง
สภาพอากาศวันนี้สุดโหดไปเลยเพราะฝนลงเม็ดค่อนข้างแรงและหนักพอดู คงต้องดูว่าจะส่งผลกับเกมของทั้งสองทีมหรือไม่
และสุดท้ายเป็นที่รู้กันว่าก่อนเกมเวย์น บริดจ์และจอห์น เทอร์รี่ก็ไม่ได้จับมือกันแต่อย่างใด งานนี้คงไม่มีวันญาติดีกันแน่ๆ
ครึ่งแรก
มาลูด้าพลาดโอกาสโคตรทองคำ
เล่นมาแค่ 2 นาที เชลซีเกือบจะได้ประตูนำเร็วแบบนัดก่อนอีกแล้ว จากจังหวะที่มาลูด้าวิ่งทะลุเข้าไปดวลเดี่ยวกับทางกรียนได้แล้ว แต่ปีกโมฮ็อกตัดสินใจไม่ดีแปไปติดบล็อกของกรีนที่พุ่งออกมา ทำให้อันเชล็อตติที่ยืนลุ้นอยู่ถึงกับหงุดหงิดเลยทีเดียวว่าทำไมถึงยิงไม่ เข้า
สิงห์มาวันเวย์
ผ่านช่วง 15 นาทีแรกไป เห้นแต่เสื้อสีน้ำเงินของเชลซีถ่ายบอลกันไปมา โดยที่เวสต์แฮมต้องเน้นไปที่เกมรับแพ็คให้เน้นแล้วพยายามโต้อย่างเดียว ซึ่งเชลซีเองแม้จะได้ครองบอลเยอะ แต่จังหวะยิงก็ไม่ได้จะแจ้งอะไรมาก เว้นแต่จังหวะหลุดเดี่ยวในตอนแรกของมาลูด้าเท่านั้น
สวนทีค้อนก็ได้เสียวนะตัวเธอ
นาทีที่ 23 แม้ว่าจะไม่ค่อยได้มีโอกาสอะไรมากนัก เพราะโดนทางเชลซีบุกกดดันอยู่ซะเยอะ แต่พอเวสต์แฮมได้สวนก็ลุ้นเสียวเหมือนกัน จากจังหวะที่เด็มบา บาจัดการตะบันนอกกรอบเขตโทษ แม้ว่าจะไกลแต่บอลพุ่งแรงแถมตรงกรอบ ทำให้เช็กต้องผวาปัดบอลเหินข้ามคานออกไป
เกือบโคตร!เช็กอย่างเซฟ
อีก 3 นาทีต่อมา เวสต์แฮมน่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ จากจังหวะที่เซียส์ตะลุยขึ้นไปทางริมเส้น ก่อนที่จะโยนบอลยาวไปเสาสองให้กับสเป็คเตอร์ที่สอดขึ้นมาแบบไม่ให้ใครรู้ พุ่งตัวลงโหม่งบอลกำลังจะเสียบเสาแรก แต่เช็กยังไวสุดๆล้มตัวปัดทิ้งไปได้ทัน
อีกดอก!ค้อนได้ลุ้นอีกเฉย
นาทีที่ 31 แม้ว่าจะบุกได้น้อยกว่าทางเชลซีมาก แต่เวสต์แฮมกลับมีจังหวะเสียวให้ได้ลุ้นเฉย จากลูกเปิดเตะมุมที่บอลเลยไปเสาสองแล้วเซียร์สหมุนตัวดีดลูกส้นบอลกำลังจะ ข้ามเส้นแล้ว แต่ก็เป็นเช็กเจ้าเก่าคนเดิมที่ล้มตัวลงปัดได้เฉียดฉิว หรือว่าเกมนี้อาจจะมีการพลิกล็อกเกิดขึ้นซะแล้ว
สิงห์เหมือนกดดันเอง
เล่นไปเล่นมาเหมือนกับว่าตอนนี้เชลซีจะติดๆขัดๆกันไปเอง เพราะพวกเขาได้ครองบอลบุกเยอะก็จริง แต่จังหวะจบนั้นไม่ได้น้ำได้เนื้อเท่ากับทางเวสต์แฮมที่หาได้แต่โอกาสสวน กลับเท่านั้น
ลูอิซน็อกกลางอากาศแต่ยังแกร่ง
นาทีที่ 41 ลูอิซถึงกับน็อกกลางอากาศไปเลย จากจังหวะที่เข้าปะทะกันเองกับเช็กที่จะพุ่งออกมาชกบอลแต่ท่อนแขนไปฟาดเอา หัวของลูอิซหงายตึงลงพื้น แต่สักพักเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้ แข็งแกร่งจริงๆ
เต็มตีนของจริง!แลมพาร์ดทะลวงไส้หาย
อีก 3 นาทีต่อมา ในที่สุดเชลซีก็พังประตูเวสต์แฮมได้เสียทีหลังจากพยายามอยู่นาน จากจังหวะที่ดร็อกบาจ่ายทะลุช่องให้กับโคลควบไปจ่ายย้อนตัดกลับไปให้แลมพาร์ ดที่สอดขึ้นมากลางกรอบเขตโทษ ยิงด้วยขวาแบบเต็มตีนเสียจริงๆ บอลพุ่งผ่านมือของกรีนที่ยื่นให้ตายก็รับไม่ทันเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้ตอนนี้เชลซีขึ้นนำได้แล้ว 1-0
จบ 45 นาทีแรก แม้ว่าจะเกือบโดนเวสต์แฮมส่องไปหลายดอก แต่เชลซีก็เข้าไปพักครึ่งด้วยสกอร์นำ 1-0 ได้สำเร็จ
ครึ่งหลัง
อูย!กาลูแปไม่ดี
นาทีที่ 51 เชลซีน่าจะได้ลุ้นประตูนำห่างจริงๆ จากจังหวะที่ดร็อกบาหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะโยนยาวไปอีกฟากให้กับมาลูด้าที่แปบอลย้อนกลับให้กาลูตั้งป้อมยืนแป เน้นๆ แต่กลับยิงหลุดเสาออกไปซะนี่ น่าเสียดายแท้
สนามเจิงน้ำน่าดู
สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์วันนี้ถึงกับระบายน้ำจากฝนที่กระหน่ำตกลงมาไม่ไหว ทำให้ในบางจุดมีน้ำขังและอาจจะทำให้จังหวะบอลเพี้ยนไปได้บ้าง นักเตะในสนามเองต้องพยายามระวังให้ดี
เอสเซียงไม่ไหวต้องส่งยูนลงแทน
นาทีที่ 57 เชลซีต้องเปลี่ยนเอาเอสเซียงที่มีอาการบาดเจ็บที่เข่าออกไปและส่งเบนายูนลง มาปะทะกับต้นสังกัดเก่าของเขา ซึ่งน่าจะขยับให้โอบี มิเกลไปเล่นในตำแหน่งของเอสเซียงแทน
ค้อนขอสู้ส่งคีนแทนโนเบิ้ล
งานนี้เวสต์แฮมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อีก 2 นาทีต่อมา ส่งคีนลงไปเล่นแทนโนเบิ้ลเพื่อเพิ่มความคมในแดนหน้าให้มากขึ้นไปอีก
หลังค้อนชักจะหลวมๆ
ตอนนี้กองหลังของเวสต์แฮมดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีสมาธิกันสักเท่าไร ปล่อยให้แลมพาร์ดหลุดเข้าไปทียังดีที่จังหวะไม่ตรงและอีกครั้งที่สกัดกันไม่ ขาดทำให้มาลูด้ามีโอกาสได้ซัดเหน่งๆทางเสาแรก ยังดีที่ยิงแป้กๆออกไปเพราะฝืนอัดด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัด
แลกกันคนละหมัดหนักๆ!
นาทีที่ 68 จังหวะนี้แลกกันให้ได้ลุ้นหนักๆไปข้างเลย เริ่มจากเชลซีก่อนที่ได้เสียวสุดๆจากลูกยิงนอกกรอบเขตโทษของลูอิซที่ตะบันบอ ละุ่งโค้งโด่งแล้วฮุคปลายเหมือนจะเสียบใต้คานชนิดที่กรีนได้แต่ทำใจแล้ว แต่บอลก็ไปชนคานเข้าอย่างจัง
เวสต์แฮมเลยจัดการสวนขึ้นไปเหมือนเดมบา บาจะไม่ยอมขออัดจากนอกกรอบเขตโทษบ้าง บอลแรงได้ใจส่ายนิดๆจนทำให้เช็กต้องผวาทุบออกมา แม้คีนจะตามเก็บตกแล้วได้ยิงแต่ก็ตรงตัวเช็กไปอีก
คีนพลาดได้ยังไง!
นาทีที่ 74 คีนพลาดโอกาสทองที่หาได้ไม่มากเลยสำหรับการเจอกับเชลซี เมื่อสเป็คเตอร์จ่ายบอลทะลุช่องให้เขาควบผ่านช่องโหว่ของแนวรับเชลซีเข้าไป ตะบันจังหวะแรกในกรอบเขตโทษคนเดียว แต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ เจ้าตัวถึงกับเซ็งตัวเองเลยทีเดียว
เขามาแล้ว!ตอร์เรสลงสนาม
อีก 2 นาทีต่อมา เชลซีเปลี่ยนเอาตอร์เรสที่กำลังลุ้นทำประตูให้ได้อยู่ลงสนามไปแทนดร็อกบา ต้องมาดูกันว่าตอร์เรสจะสามารถทำประตูที่เขาหวังเอาไว้ได้หรือไม่ในเกมนี้
แก็บบิดอนช่วยชีวิตค้อน
นาทีที่ 79 อเนลก้าน่าจะทำประตูเรียกความมั่นใจของเขาเองกลับคืนมาได้พร้อมฝังเวสต์แฮม จริงๆ จากจังหวะที่ตอร์เรสล้มตัวจ่ายบอลถวายพานไปให้กับเขาทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ยืนยิงโล่งๆคนเดียว บอลพุ่งผ่านกรีนมุ่งหน้าหาประตูแน่แล้ว แต่เป็นแก็บบิดอนที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนโหม่งสกัดไว้อย่างแม่นยำสุดๆ เซฟโคตร
ฝันที่เป็นจริง!ตอร์เรสพังประตูแล้วโว้ยยยยยย
นาทีที่ 84 เป็นช่วงเวลาที่แฟนบอลเชลซีและตอร์เรสเองต้องจดจำไปอีกนาน เพราะเขาปลดล็อกทำพังประตูให้กับเชลซีได้สำเร็จ จากจังหวะที่อเนลก้าจ่ายบอลลอดขาให้เขาวิ่งทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ แม้ว่าจังหวะแรกจะผิดไปนิด แต่ก็ยังกลับตัวยิงผ่านกองหลังของมือของกรีนเข้าไปเสียบเสาอย่างสวยงาม เจ้าตัววิ่งแหกปากดีใจจนไม่ต้องบรรยายถึงความรู้สึก เชลซีทิ้งห่าง 2-0 แล้ว
สุดตีนฮ่ะ!มาลูด้ายิงสนั่น
ช่วงทดเวลานาทีที่ 3 เป็นมาลูด้าที่มาซัดตอกฝาโลง จากจังหวะที่ตอร์เรสจ่ายกั๊กๆแต่บอลไปเข้าทางวิ่งมาตะบันด้วยซ้ายข้างถนัด บอลพุ่งแหวกอากาศแทบจะทะลุผ่านมือของกรีนเข้าไปเสียบตาข่าย เชลซีถล่มแหลก 3-0 ตุนประตูได้เสียไว้เพียบ
จบเกมเป็นเชลซีที่สามารถเก็บชัยชนะเหนือเวสต์แอมไปได้ 3-0 ขยับคะแนนไล่จี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็น 6 คะแนนเท่าเดิม เพราะรอยยิ้มบนใบหน้าของเฟร์นานโด ตอร์เรสที่ปลดล็อกทำประตูแรกให้กับสโมสรได้เสียที
แหล่งที่มา
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=420915
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น